หนุ่มเมาแล้วขับ พุ่งชน ด.ญ. เสียชีวิตคาที่ ขวดเบียร์เต็มรถ แม่ร่ำไห้กอดร่างลูก

Author:

เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 67 ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา พ.ต.ต.ณัฐพงษ์ อาจอ่ำ สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองราชบุรี รับแจ้งเหตุรถเก๋งชนรถจักรยานยนต์มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บริเวณถนนเขางูสายเก่า หมู่ที่ 1 ต.เกาะพลับพลา อ.เมือง จ.ราชบุรี จึงรุดตรวจสอบพร้อมแพทย์เวร รพ.ราชบุรี และมูลนิธิปฐมบรมราชานุสรณ์ ที่เกิดเหตุบริเวณร้านขายน้ำดื่ม พบร่าง ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า สกู๊ปปี้ สภาพถูกชนพังยับทั้งคัน โดยมี น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 52 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต กอดร่างลูกสาวร้องไห้ พร้อมเรียกชื่อลูกสาวและพูดแต่คำว่า แม่ขอโทษ

ส่วนคู่กรณีเป็นรถเก๋ง โตโยต้าคัมรี่ สีเขียว ทะเบียนกรุงเทพฯ จอดเสียหลักอยู่กลางถนน ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 10 เมตร สภาพกันชนรถด้านหน้าหลุด ล้อหน้าด้านซ้ายแตก และบนถนนพบเศษชิ้นส่วนรถยนต์กระจายเกลื่อน ตรวจสอบภายในรถพบขวดเบียร์ที่เปิดดื่มแล้ว และยังไม่ได้เปิด นอกจากนี้ยังพบกระป๋องเบียร์อีกด้วย

คนขับรถถูกชาวบ้านและเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ช่วยกันควบคุมตัวเอาไว้ มีลักษณะอาการคล้ายคนมึนเมา ทราบชื่อต่อมาคือ นายวิหก (สงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี ชาว จ.กรุงเทพมหานคร ยอมรับว่าดื่มมาหลายขวดและเมาจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวไปสอบสวนต่อที่ สภ.เมืองราชบุรี

สอบถามเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ด.ญ.เอ ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาซื้อข้าวให้แม่ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า แต่แม่โทรศัพท์เข้ามาจึงจอดรถริมถนนเพื่อรับสาย ซึ่งเป็นทางโค้งพอดี และเพียงไม่ถึง 5 วินาที นายวิหก ขับรถยนต์มาด้วยความเร็วจากเลนขวาหลุดโค้งพุ่งชน ด.ญ.เอ ลอยเข้าไปในร้านขายน้ำดื่มข้างทาง แล้วเสียชีวิตทันที จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ตอนนั้นตนขี่รถจักรยานยนต์มาตามหลังรถเก๋งเพื่อจะกลับบ้าน เห็นว่ารถขับมาด้วยความเร็วจนไม่กล้าขี่รถเข้าใกล้ กระทั่งมาถึงที่เกิดเหตุเห็นน้องผู้เสียชีวิตขี่รถจักรยานยนต์มาจอดอยู่ข้างทางได้แป๊บเดียว

รถเก๋งก็ขับแหกโค้งพุ่งชนน้องจนเสียชีวิต ส่วนรถเก๋งเสียหลักจอดแน่นิ่งอยู่กลางถนน หลังเกิดเหตุคนขับรถยังไม่ยอมลงจากรถ และพยายามจะเร่งเครื่องหนี แต่รถไม่สามารถเคลื่อนที่ไปได้เพราะล้อหน้าหักและยางแตก ขณะที่ตนและชาวบ้านเข้าไปใกล้เพื่อบอกให้คนขับลงจากรถ ก็ได้กลิ่นสุราคลุ้งออกมาจากตัวคนขับ ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับด้วยว่าเมา

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำพยานบุคคล พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้จุดเกิดเหตุ และให้คนขับเป่าปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย พบสูงถึง 222 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จึงตั้งข้อกล่าวหา เมาแล้วขับจนทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต นอกจากนั้น เมื่อตรวจสอบรถเก๋งคันเกิดเหตุ พบว่าทั้งทะเบียนรถและพ.ร.บ. ขาด ส่วนร่างของ ด.ญ.เอ เจ้าหน้าที่ได้ส่งผ่าชันสูตรที่ศูนย์นิติเวช รพ.ราชบุรี เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียด ก่อนส่งมอบร่างให้ญาติไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *