วันที่ 31 ก.ค.2567 ที่ศูนย์ประสานงานนายนริสสร แสงแก้ว สก.เขตบางเขน ถนนพหลโยธิน เขตบางเขน กทม. นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง นำนายเอ (นามสมมติ) อายุ 42 ปี อาชีพวิศวกร บริษัทแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี มาพบสื่อมวลชน หลังนายเอเข้าขอความช่วยเหลือ

กรณีภรรยาสาวอายุ 20 ปี แอบไปคบชายชู้ อายุ 21 ปี เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิแห่งหนึ่งใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยมีคลิปภาพจับได้คาหนังคาเขา ขณะภรรยาและชายชู้กำลังทำกิจกรรมทางเพศกันภายในรถ จึงได้ทำร้ายฝ่ายชายชู้ จนได้รับบาดเจ็บกลับไป ก่อนจะยกพวกมาปิดล้อมบ้านเพื่อจะเอาคืนแก้แค้น ทำให้นายเอ (สามี) ต้องอยู่ด้วยความกลัวและหวาดระแวง

นายเอ กล่าวว่า ตนคบหากับภรรยามานาน 3 ปี จดทะเบียนสมรสกันมานาน 1 ปี แต่มาระยะหลังภรรยาปฏิเสธการร่วมหลับนอนด้วย ตนมาทราบจากลูกติดของภรรยาว่า แม่คุยกับผู้ชาย แต่แม่ไม่ให้บอก กระทั่งเวลา 20.00 น. วันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังเลิกงาน

ตนได้เช็ก GPS มือถือของภรรยาพบว่า อยู่ที่สนามฟุตบอลแห่งหนึ่งใน อำเภอศรีราชา จึงตามไปดู พบว่า ภรรยาอยู่ในรถมูลนิธิฯ มีม่านปิดบังรอบด้าน แต่ยังติดเครื่องยนต์อยู่ ตนจึงเปิดประตูรถพบภรรยากำลังทำกิจกรรมทางเพศกับชายชู้ อยู่ที่เบาะด้านหลังรถ ด้วยความโกรธจึงเตะผู้ชายจนดั้งจมูกหัก ซึ่งก่อนมีกิจกรรมทางเพศภายในรถ ฝ่ายภรรยาได้นำลูกและหลานไปนั่งรออยู่ที่ใต้ต้นไม้ใกล้ๆกัน

ภายหลังจากจบเหตุการณ์แล้วตนพาภรรยา ลูกและหลานกลับบ้าน มีการเจรจาตกลงกันเพราะภรรยาเคยก่อเหตุลักษณะเช่นนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง ขณะปรับความเข้าใจกันประมาณ 30 นาที ฝ่ายชายชู้ได้ไปตามพรรคพวกที่เป็นอาสาของมูลนิธิแห่งหนึ่งในศรีราชา บุกเข้ามาที่บ้านนับ 10 คน

โดยพ่อของชายชู้มาร้องตะโกนท้าทายให้ตนออกมานอกบ้าน แต่ตนไม่ออกไป พร้อมแจ้งตำรวจ สภ.แหลมฉบัง ให้มาช่วยระงับเหตุ และตนได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.แหลมฉบัง พร้อมลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน โดยทางฝ่ายชายชู้ยังไม่ได้เข้ามาเจรจาหรือมีการแจ้งข้อกล่าวหา การบุกรุกแต่อย่างใด

บาดตาบาดใจ เมียจ้ำจี้กับชู้ในรถ ให้ลูกนั่งรอ วิศวกรหนุ่มประเคนแข้ง ชู้จมูกหัก ฟ้องพ่อตามพวกถล่มบ้าน

“ที่ผ่านมาตนดูแลภรรยาเป็นอย่างดี ให้เงินใช้ เดือนละ20,000 กว่าบาท ช่วยปิดค่าผ่อนรถให้ ไม่เคยให้อด แต่กลับมาคบชู้ หลังเกิดเหตุก็ยังติดต่อกับฝ่ายชายชู้ โดยเรียกชู้ว่า “ป๊า” ว่า “ที่รัก” แต่กลับเรียกตนว่า “ไอ้นั่น” นอกจากนั้นฝ่ายชายชู้ ยังโพสต์ข่มขู่ว่า จะเล่นงานผมให้หนักกว่าที่โดนมา ทำให้ผมรู้สึกหวาดกลัว เพราะเขาเคยบุกเข้ามาที่บ้าน

ตอนนี้ต้องอยู่ตามลำพัง ส่วนภรรยาและลูก หลาน ได้ย้ายออกจากบ้านไปอยู่กับแม่ยายหมดแล้ว และไม่มีทางกลับมาคืนดีกันอีก จึงมาขอร้องทาง คุณกัน จอมพลัง ให้ช่วยเรื่องการฟ้องชู้ และช่วยเรื่องความปลอดภัยของตนด้วย

กัน จอมพลัง กล่าวว่า หลังจากนี้ตนจะสอบถามไปยังหัวหน้ามูลนิธิฯ ดังกล่าวว่า การกระทำของเจ้าหน้าที่ในมูลนิธิฯลักษณะนี้ที่ยกพวกบุกรุกบ้านผู้เสียหาย ถูกต้องหรือไม่ และจะจบปัญหาการข่มขู่ให้ผู้เสียหายหวาดกลัวหรือไม่ เพราะต้นเหตุเกิดจากการที่อาสาฯ รายนี้ไปคบชู้กับเมียผู้อื่น

โดยจะประสานทางผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เพื่อให้ทำการตรวจสอบพฤติกรรมของมูลนิธิที่ยกพวกไปที่บ้านของผู้เสียหายด้วยว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ส่วนด้านคดีจะติดต่อกับทาง ผกก.สภ.แหลมฉบัง ว่า คดีมีความคืบหน้าอย่างไร และเรื่องความปลอดภัยของผู้เสียหายต่อไป