เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 31 ก.ค. 2567 นายเขมทัต ชัชอานนท์ หรือ “เสี่ยบุ๊ค” อายุ 29 ปี น้องชายของ นายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว หลังจากพี่ชายถูกนักโทษเด็ดขาด ก่อเหตุแทงหวังเอาชีวิต

นายเขมทัต กล่าวว่า ตนอยู่ต่างจังหวัดใกล้กับชายแดน เพิ่งจะมีการวิดีโอคอลเยี่ยมพี่ชายที่อยู่ในเรือนจำไปเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จากการพูดคุย พี่ชายพยายามพูดให้ตนและครอบครัวสบายใจขึ้น แต่ตนมองออกว่าพี่ชายกำลังวิตกกังวล เเละเป็นกังวลกลัวว่าคุณพ่อจะอาการทรุด เนื่องจากปัจจุบันคุณพ่อป่วยโรคมะเร็งระยะที่ 4

นายเขมทัต กล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นเรื่องจะขอทำเรื่องให้พี่ชายย้ายเรือนจำหรือไม่นั้น ในวันนี้ยังไม่มีการพูดคุยกับพี่ชายในเรื่องนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พี่ชายเล่าให้ฟังว่า ที่ผ่านมาตั้งแต่อยู่ในเรือนจำบางขวางมาเกือบ 1 ปี ไม่เคยมีปัญหากับใคร เคยมีประเด็นเรื่องทะเลาะวิวาทแค่ที่เรือนจำคลองเปรมเท่านั้น

นายเขมทัต กล่าวอีกว่า พี่ชายยืนยันกับตนว่า ไม่เคยรู้จักกับนายภิญโญ ผู้ก่อเหตุมาก่อน ตอนนี้ตนและพี่ชายจึงเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพราะพี่ชายโดนใบสั่งมาอีกที แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าใบสั่งมาจากใครหรือเป็นเพราะสาเหตุอะไร เเต่ตนคาดว่า พี่ชายน่าจะรู้ แต่ไม่ได้บอกตนเอง

นายเขมทัต กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพี่ชายที่เรือนจำบางขวางเกิดตั้งแต่ช่วงเดือน ก.พ. ปี 2567 ตอนนั้นพี่ชายเล่าว่า มีกลุ่มนักโทษเดินกันมา 8-9 คน แต่เพื่อนของพี่ชายเห็นจึงเข้าช่วยได้ทัน หลังจากเกิดเหตุไม่ได้มีการเค้นสอบต่อ ทราบเพียงแค่ว่ามีการสั่งย้ายนายภิญโญไปอยู่ที่เรือนจำอื่นเท่านั้น ไม่ได้มีการดำเนินการอย่างอื่นเพิ่มเติม

นายเขมทัต กล่าวอีกว่า ตนเพิ่งจะมาทราบเรื่องภายหลังในช่วงระยะเวลาประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากที่เกิดเรื่องเมื่อเดือน ก.พ. จนถึงปัจจุบันนี้ พี่ชายก็ไม่เคยถูกทำร้ายร่างกายอีก ตอนนั้นคุณพ่อของตนก็เป็นคนเข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ภายในเรือนจำ แต่เรื่องรายละเอียดตนไม่ทราบว่ามีการดำเนินการอย่างไรบ้าง

นายเขมทัต กล่าวต่อว่า ยอมรับว่าในตอนนี้ตนและครอบครัวต่างเป็นกังวลและเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของพี่ชายมาก ส่วนประเด็นเรื่องที่อาการป่วยของพี่ชายที่ไอเป็นเลือด ยืนยันว่าเป็นความจริง

นายเขมทัต กล่าวอีกว่า ทางเจ้าหน้าที่เรือนจำมีการถ่ายรูปภาพเลือดไว้เป็นหลักฐาน ยืนยันไม่ได้เกิดจากการทานแตงโมเเล้วอาเจียน แต่เป็นเพราะก่อนที่พี่ชายจะเข้าไปอยู่ในเรือนจำมีอาการป่วยเรื่องหลอดลมตีบอยู่ก่อนแล้ว แต่ปัจจุบันนี้พี่ชายได้ทำการรักษาจนหายดีแล้ว โดยมีใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า