‘ไสว ใจร้าย’ อดีตนักโทษบางขวาง ชี้ไม่คุ้ม ลอบฆ่า ‘เสี่ยโป้’ ฝ่าหลายด่านกว่าจะถึงตัว

Author:

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 31 ก.ค. 2567 นายไสว สินเอี่ยม หรือ “ไสว ใจร้าย” อายุ 53 ปี อดีตนักโทษ ในคุกบางขวาง ต้องโทษ 30 ปี 5 เดือน คดีปล้นทรัพย์ กล่าวถึงเหตุการณ์นายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ เผยถูกลอบฆ่าในคุกบางขวาง

นายไสว กล่าวว่า ตนเคยก่อเหตุคดีปล้นทรัพย์ และเข้าออกเรือนจำ ตั้งแต่อายุ 19 ปี พ้นโทษออกมา ก็มาก่อเหตุปล้นทรัพย์อีก ทำให้เข้าคุกเป็นครั้งที่ 2 ในช่วงเวลานั้นก็ไปก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันในคุก ทำให้ต้องต่อโทษไปอีกหลายปี กลายเป็นต้องโทษทั้งหมด 30 ปี 5 เดือน อยู่มาแล้วกว่า 10 เรือนจำ ทั้ง เรือนจำบางขวาง, เรือนจำพิเศษกรุงเทพ, เรือนจำลาดยาว, เรือนจำบางไผ่, เรือนจำเขาดิน ฯลฯ

นายไสว กล่าวต่อว่า กรณีของเสี่ยโป้ถูกนักโทษเด็ดขาดทำร้ายร่างกายในเรือนจำนั้น ยอมรับว่าเมื่อก่อนมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เพราะมีเรื่องทะเลาะวิวาทในเรือนจำ ส่วนใหญ่มักจะเกิดจากการกระทบกระทั่งกันเรื่องคำพูด เพราะนักโทษมักจะอ่อนไหวเรื่องนี้มาก หากพูดจาไม่เข้าหู หรือ พูดจาดูหมิ่น เสียดสี มีการต่อว่าถึงพ่อแม่ ก็จะอารมณ์ร้อนทันที

นายไสว กล่าวอีกว่า นักโทษส่วนใหญ่ มีแรงกดดันสูง ไม่รู้ว่าตัวเองจะติดคุกนานเท่าไหร่ หรือบางคนรู้ว่าตัวเองต้องติดคุกระยะเวลานานก็มักจะมีความเครียด และอีกสาเหตุหนึ่ง คืออาจจะขัดผลประโยชน์กันเรื่องเงิน เช่น การเอากาแฟไปขาย แล้วเอาไปออกดอกกัน ทำให้เกิดการทะเลาะกันได้

นายไสว กล่าวต่อว่า ตนเชื่อว่ากรณีที่เกิดขึ้นกับเสี่ยโป้เป็นการกระทบกระทั่งกันส่วนตัว ต้องมีมูลเหตุจูงใจที่ทำให้ก่อเหตุเรื่องนี้ เสี่ยโป้อยู่แดน 10 และผู้ก่อเหตุอยู่แดน 2 หากจะข้ามมาก่อเหตุหรือพกอาวุธ เป็นไปได้ยาก เนื่องจากแดน 10 และแดน 2 อยู่ห่างกันมาก กว่าที่จะมาถึงกันจะต้องผ่านด่านการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ถึง 3 ด่านและต้องมีการตรวจอาวุธทุกด่าน

ไสว ใจร้าย อดีตนักโทษบางขวาง

นายไสว กล่าวอีกว่า ในสมัยก่อนนักโทษที่ก่อเหตุลักษณะนี้มักจะฝังอาวุธไว้ในดิน หรือมีของเก่าจากการฝังของคนในอดีต เพื่อเก็บรักษาไม่ให้ขึ้นสนิมได้ แต่ส่วนตัวมองว่ากรณีนี้อาจจะเกิดการหละหลวมของการตรวจสอบ

นายไสว กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่อ้างว่ามีการรับจ้างก่อเหตุแบบนี้นั้น ในอดีตเคยมีเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน แต่ปัจจุบันเชื่อไม่มีแล้ว เนื่องจากผู้คุมในแต่ละแดนมักจะมีสายเป็นของตัวเอง ถ้าหากนักโทษมีการสื่อสารในลักษณะจะมาก่อเหตุ ผู้คุมจะทราบเรื่องนี้ทันที และนักโทษรายนั้น จะมีความผิดที่ร้ายแรง ถูกขังในห้องเดี่ยว เพิ่มโทษ ลดชั้นโทษ และไม่ได้รับอภัยโทษ

นายไสว กล่าวอีกว่า หากจะมีการสั่งการในรูปแบบจดหมาย ก็ยิ่งเป็นไปได้ยาก เพราะการเขียนจดหมายก็ต้องถูกตรวจสอบ แต่มีช่องทางหนึ่งที่สามารถสื่อสารได้คือช่วงเวลาที่เบิกตัวนักโทษขึ้นศาล ก็มีความเป็นไปได้ แต่มันเกิดขึ้นได้ยาก

นายไสว กล่าวต่อว่า สำหรับประเด็นที่ผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปลายแหลมมาแทงเสี่ยโป้นั้น ทำไปเพราะอยากเป็นที่ยอมรับ ตนมองว่า ไม่คุ้มกัน ไม่มีใครชนะ เพราะหากทำจริง คนก่อเหตุก็จะถูกลงโทษ แต่ในสมัยก่อนการจะเป็นที่ยอมรับในหมู่นักโทษหรือที่เรียกกันว่า พ่อบ้าน จะต้องอาศัยอยู่ในเรือนจำมาอย่างยาวนาน และมีทั้งพระเดชพระคุณ

นายไสว กล่าวอีกว่า ตนเคยอาศัยอยู่ในคุกมาหลายที่จนได้เป็นพ่อบ้าน เนื่องจากว่าตนอยู่ในคุกเป็นระยะเวลานาน จะต้องดูแลลูกบ้าน ถ้าหากลูกบ้านมีเรื่องทะเลาะวิวาท ตนจะเข้าไปช่วยเหลือหรือปกป้อง หากจะเข้าไปทำร้ายร่างกายผู้อื่น โดยเป็นฝ่ายเริ่มก่อนแล้วจะได้รับการยอมรับนั้น ความจริงแล้วมันไม่ใช่ คิดว่าอีกฝ่ายน่าจะคิดเองเออเองมากกว่า

นายไสว กล่าวต่อว่า ส่วนที่สังคมตั้งข้อสงสัยว่า กรณีที่เกิดขึ้นผู้คุมรู้เห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่นั้น ตนคิดว่าถ้าเป็นเรื่องจริงก็ต้องมีผู้คุมเกี่ยวข้อง แต่จะต้องถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวด เชื่อว่าผู้คุมไม่น่าจะหาเรื่องให้ตัวเองเดือดร้อนอย่างแน่นอน

นายไสว กล่าวอีกว่า ในฐานะที่เคยเป็นอดีตนักโทษ ความรุนแรงแบบนี้เคยมี ไม่ใช่เฉพาะของเสี่ยโป้ แต่การตัดสินกรมราชทัณฑ์จะมีการตรวจสอบและเอาผู้กระทำความผิดมาลงโทษทุกครั้ง ยืนยันว่าในอดีตและปัจจุบันที่เรือนจำบางขวาง ไม่มีเจ้าหน้าที่ให้การสนับสนุนในการช่วยเหลือ เพื่อให้เกิดการทำร้ายและทะเลาะกันแน่นอน เพราะหลายคนก็เป็นคดี เป็นคนดัง จะถูกตรวจสอบเป็นพิเศษ ส่วนตัวมองว่า หลังจากญาติของเสี่ยโป้ไปร้องเรียน เสี่ยโป้ก็คงได้รับการดูแลเป็นพิเศษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *