พ่อยิงสั่งสอน ลูกชายคนสุดท้อง คลั่งยาทำร้าย จิกหัวแม่  

Author:

หนุ่มอุดรธานีวัย 45 ปี ลูกชายคนสุดท้องคลุ้มคลั่ง เป็นอาการจากการเสพยาเสพติดมานาน อาละวาดเตะแม่ จิกหัวไปรอบบ้าน พ่อไปทำสวนอยู่อีกที่ มีคนไปบอกรีบมาดู ถูกลูกชายจับบีบคอ สลัดหลุดมาได้ชักปืน .38 ที่พกป้องกันตัว ยิงที่ขาจนสิ้นฤทธิ์ ยอมรับเสียใจ แต่ถ้าไม่ยิงตัวเองอาจถูกลูกทำร้ายจนตาย

วันที่ 31 กรกฎาคม 2567 พ.ต.ท.ยืนยง คำบอน สว.สอบสอน สภ.กุดจับ ได้รับแจ้งเหตุมีชายถูกยิงได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 368/1 ม.1 ต.เมืองเพีย อ.กุดจับ จ.อุดรธานี เบื้องต้นผู้บาดเจ็บยังอยู่ในบ้าน ส่วนผู้ก่อเหตุไม่ได้หลบหนีไปไหน ยืนรอมอบตัวในที่เกิดเหตุ หลังจากนั้น พ.ต.อ.อัมรินทร์ อยู่เย็น ผกก.สภ.กุดจับ พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน และตำรวจป้องกันและปราบปราม สภ.กุดจับ รุดไปตรวจสอบ ก่อนประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพ รพ.กุดจับ เร่งนำตัวผู้บาดเจ็บส่งรักษา

ที่เกิดเหตุบ้านสวน 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ อยู่กลางทุ่งนาท้ายหมู่บ้าน ที่บริเวณโถงชั้นล่างพบนายกิตติชัย แดงสีอ่อน หรือยาน อายุ 45 ปี ลูกชายเจ้าของบ้าน สวมกางเกงขาสั้นสีดำตัวเดียว ถูกยิงเข้าที่ต้นขาขวา กระสุนฝังใน เลือดไหลนองเต็มพื้นบ้าน ซึ่งระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือ ได้สอบถามอาการ และสาเหตุที่ถูกยิง นายกิตติชัยตอบด้วยอาการสับสนและเพ้อเจ้อว่า “มันเป็นเรื่องของหลวงปู่ทองใบ หลวงปู่ทองใบเป็นคนบงการทั้งหมด”

ส่วนผู้ก่อเหตุชื่อนายยงยุทธ แดงสีอ่อน อายุ 75 ปี ข้าราชการครูเกษียณ พ่อของนายกิตติชัย ยืนรอมอบตัวพร้อมของกลางอาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 มีทะเบียน พร้อมกระสุน 6 นัด เป็นกระสุนจริง 2 นัด กระสุนซ้อม 4 นัด และปลอกกระสุน 1 ปลอก โดยรับสารภาพว่า ก่อเหตุยิงลูกชายจริง เนื่องจากลูกชายเสพยาคลุ้มคลั่งอาละวาดทำร้ายร่างกายแม่ตัวเอง จนแม่ต้องหนีออกจากบ้าน เมื่อตนกลับมาถึงบ้าน ยังคลุ้มคลั่งไม่เลิก และจะปรี่เข้าทำร้ายร่างกาย  จึงต้องยิงสวนออกไปที่ขา เพื่อป้องกันตัว ก่อนถูกควบคุมตัวไปสอบสวนที่โรงพัก

นายยงยุทธ ผู้เป็นพ่อ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนออกไปทำสวนทุเรียนกับอดีตลูกศิษย์ ที่มาช่วยงานตั้งแต่เช้า ปล่อยให้ภรรยาอยู่บ้านกับลูกชาย ช่วงสายภรรยาโทรมาบอกว่า ลูกชายอาละวาดทำร้ายร่างกาย ตอนนี้หนีออกมาจากบ้านได้แล้ว ตนจึงเข้ามาดูที่บ้านช่วงบ่ายโมง เมื่อมาถึงก็เห็นลูกชายนอนอยู่ในห้องนอน จึงไปต่อว่าและสั่งสอนว่า ทำไมถึงต้องทำร้ายแม่ถึงขนาดนั้น แม่เลี้ยงเรามาตั้งแต่เด็ก ไม่มีความสำนึกบุญคุณเลยหรือไง ลูกชายก็เถียงว่า แม่ขโมยเงินเขาไป 3 พันบาท ที่เขาเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกง ตนก็ต่อว่าลูกชาย เงินแค่ 3 พัน ทำไมต้องทำกับแม่ รถยนต์คันละ 4-5 แสน แม่ก็ยังซื้อให้ได้ จากนั้นลูกชายเริ่มโมโห ด่ากลับว่า คนต่อไปก็คือมึงนั่นแหละไอ้ยงยุทธ แล้วลูกชายก็ปรี่เข้ามาบีบคอตน ต่อสู้กันอยู่สักพัก จึงร้องเรียกลูกศิษย์ให้มาช่วย เมื่อลูกชายชะงัก ตนจึงชักปืนออกมาจากเอว ยิงสวนไปที่ขา 1 นัด เพื่อสยบความคลั่ง จนลูกชายล้มลง ซึ่งตนเตรียมปืนไว้เพื่อป้องกันอยู่แล้ว เพราะรู้ว่าลูกชายคลั่ง และมีอาวุธมีดอยู่ในห้อง ไม่ได้หวังเอาชีวิตลูก กระสุนที่ยิงออกไปก็เป็นลูกซ้อม แค่ยิงเพื่อสกัดลูกชายให้หายคลั่ง ไม่ให้เข้ามาทำร้าย ถ้าตนไม่ยิงอาจจะเป็นตนก็ได้ที่จะต้องตาย เสียใจมากที่ต้องยิงลูกชาย และเขาเป็นลูกชายคนเล็กจากลูกทั้งหมด 4 คน และมีลูกสาว 3 คน เป็นพี่สาวของเขา

ด้าน นายอำนวย แสงสยาม อายุ 34 ปี เล่าว่า ตนเป็นลูกศิษย์พ่อครูยงยุทธ และมาช่วยงานที่สวน ตอนแรกตั้งใจพากันไปพูดดีๆ โดยตนรออยู่หน้าบ้าน สักพักก็ได้ยินเสียงลูกชายเอะอะโวยวายดังขึ้น เอะใจว่า อาจจะเกิดเรื่องร้าย เพราะแม่บอกว่าลูกชายลับมีดเก็บเอาไว้ในบ้าน เมื่อวิ่งเข้าไปดูก็เห็นเขาใช้มือทั้งสองข้างกำบีบคอพ่ออยู่ จึงร้องห้าม และเอามือตบประตูเสียงดัง เขาเห็นตนเข้าไปเขาก็หยุดชะงัก ตนจึงดึงพ่อออกมาจากตัวเขาได้ พ่อจึงชักปืนยิงไป 1 นัด ที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเหตุรุนแรงแบบนี้ แต่ลูกชายเขาคลั่งอาละวาดทุบทำลายข้าวของ และตีแม่ประจำ ไม่รู้ว่าเขาจะไปตกนรกขุมไหน พ่อครูกับตนก็ไม่มีเวลาเพราะต้องดูแลสวนทุเรียน และเมื่อจะมาที่บ้านนี้ พ่อจะชวนมาด้วย เพราะกลัวอันตราย กลัวจะสู้แรงเขาไม่ไหว

ต่อมา นางสุขุมาลย์ อายุ 74 ปี ภรรยานายยงยุทธ แม่นายกิตติชัย ได้เดินทางมาที่โรงพักเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม โดยเล่าว่า เมื่อเช้านี้แม่ว่าจะเข้าไปเอาโทรศัพท์มือถือในบ้าน ลูกชายได้ขว้างปาถุงยาใส่ แล้ววิ่งไปเอาไม้ถูกพื้นจะมาตีซ้ำ แม่หลบได้ แต่ลูกชายก็เตะเข้าที่ศีรษะ และใบหน้า แม่ก็ยกมือป้องกันตัวเอง แต่ลูกชายก็ยังไม่หยุด แถมดึงผมแม่ลากไปลากมารอบบ้าน เมื่อสะบัดหลุดมาได้จึงคว้ากุญแจสตาร์ตรถจักรยานยนต์ ขี่หลบหนีออกมาจากบ้านทันที จากนั้นแม่ก็ไปหลบซ่อนอยู่ที่สำนักงานฌาปนกิจหมู่บ้าน

“ลูกไม่เคยตีแม่ ส่วนมากจะอาละวาดทุบทำลายข้าวของ และชอบด่าทอแม่ว่า อีสันดาน กูจะจัดการมึงจนวันนี้เขาก็ลงมือทำร้ายแม่จนได้ สาเหตุที่ลูกชายมีอาการแบบนี้ เนื่องจากลูกชายติดยาเสพติด (ยาบ้า กัญชา) สมควรแล้วที่ลูกชายถูกพ่อยิงสั่งสอน ถ้าพ่อไม่ยิงอาจจะถูกลูกชายฆ่าตายก็ได้ ก็แล้วแต่บุญแต่กรรมที่จะเกิดขึ้น แต่แม่และพ่อก็ยังรักลูกเหมือนเดิม เพราะเขาเป็นลูกชายคนเดียว”

พ.ต.อ.อัมรินทร์ อยู่เย็น ผกก.สภ.กุดจับ เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหานายยงยุทธว่า “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ โดยใช้อาวุธปืน” ซึ่งจะติดตามอาการบาดเจ็บของนายกิตติชัยอีกครั้งว่าสาหัสหรือไม่ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ส่วนอาวุธปืนมีทะเบียนครอบครองถูกต้องตามกฎหมาย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *