ลุงแท็กซี่ช้ำ เสาไฟล้มใส่รถเสียหาย การไฟฟ้า ไม่รับผิดชอบ ให้ฟ้องเจ้าของต้นไม้เอง

Author:

ลุงแท็กซี่ช้ำ เสาไฟล้มใส่รถเสียหาย การไฟฟ้า ไม่รับผิดชอบ ไล่ให้ฟ้องเจ้าของต้นไม้เอง โร่ร้องสายไหมต้องรอด ชีวิตแสนลำบาก ต้องกู้นอกระบบจ่ายค่าซ่อม

วันที่ 19 ก.ค.2567 เวลา 10.30 น. ที่ สายไหมต้องรอด เขตสายไหม นายดำรงค์ศักดิ์ โพธิ์น้อย อายุ 56 ปี โชว์เฟอร์ขับแท็กซี่ พร้อมภรรยา เดินทางเข้าพบ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความเป็นธรรม จากกรณีเสาไฟฟ้า ล้มทับรถแท็กซี่จนพังยับทั้งคัน แต่การไฟฟ้าปฏิเสธความรับผิดชอบ ไล่ไปฟ้องต้นไม้!

นายดำรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า ตนมีอาชีพขับรถแท็กซี่ หาเลี้ยงครอบครัว โดยรถคันนี้ดาวน์มา 2 แสนกว่าบาท ผ่อนเดือนละหมื่นกว่าบาท ขณะนี้ยังผ่อนไม่หมดและทำประกันชั้น 3 บวก เหตุดังกล่าวเกิดเมื่อวันที่ 13 พ.ค.67 เวลา 14.00 น. บริเวณ ถ.นิมิตรใหม่ 40 เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ

ขณะที่ตนเองและภรรยา ขับรถกลับบ้าน เกิดฝนตกลมกระโชกแรง เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ จู่ๆเสาไฟฟ้าแรงสูงล้มลงมาทับรถตนเองอย่างจัง ทำให้รถพังเสียหาย ตนติดอยู่ในรถกับภรรยานานกว่า 1 ชั่วโมง ไม่สามารถออกมาจากรถได้ เนื่องจากเสาไฟที่ล้มทับมีประกายไฟออกมาเป็นระยะๆ

ต่อมาเจ้าหน้าที่การไฟฟ้ามีนบุรี มาดูที่เกิดเหตุพร้อมประสาน จนท.ตัดไฟฟ้า บริเวณดังกล่าว ตนจึงออกมาจากรถได้ สภาพรถตนในขณะนั้นคือพังยับ โดย จนท.ให้ตนนำรถเข้าซ่อมได้เลย พร้อมแจ้งให้อู่ทำใบประเมินราคามายื้นที่การไฟฟ้ามีนบุรี เพื่อขออนุมัติเบิกเงินค่าซ่อมต่อไป

ตนจึงทำตามคำแนะนำ โดยนำรถเข้าซ่อม และได้ติดตามสอบถามการไฟฟ้ามีนบุรีมาโดยตลอดว่า อนุมัติเงินค่าซ่อมให้หรือยัง เนื่องจากอู่ทวงถามค่าซ่อมแล้ว แต่การไฟฟ้ามีนบุรี ขอเลื่อนมาโดยตลอด

กระทั่งวันที่ 26 มิ.ย.67 การไฟฟ้านครหลวง มีหนังสือมาแจ้ง “ปฏิเสธการชดใช้ค่าเสียหาย” โดยให้เหตุผลว่า ที่เสาไฟฟ้าล้มทับรถแท็กซี่ของตน เกิดจากต้นไม้ล้มใส่สายไฟและเสาไฟ จึงไม่ใช่ความผิดของการไฟฟ้า หากจะเรียกค่าเสียหาย จะต้องไปฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเอาจากเจ้าของต้นไม้ที่ล้มแทน

เมื่อตนเห็นหนังสือตนถึงกับร้องไห้กับภรรยา เนื่องจากครอบครัวลำบากมาก พอรถถูกเสาไฟทับ ทำให้ขาดรายได้ ค่าผ่อนรถ ค่าน้ำ ค่าไฟ ต้องค้างจ่าย ต้องอดมื้อกินมื้อ หวังว่าเมื่อได้เงินชดเชยจากการไฟฟ้า จะรีบไปจ่ายให้อู่รถ เพื่อเร่งซ่อมรถให้เสร็จ จะได้ขับรถหาเงินมาจ่ายหนี้สิน

พอถูกการไฟฟ้าปฏิเสธ ไล่ให้ไปฟ้องต้นไม้ ทำให้ตนทุกข์ใจมากจนคิดอยากฆ่าตัวตาย รู้สึกเวทนาในความจนของตัวเอง รู้ว่ายังไงก็คงไม่มีปัญญาจ้างทนายไปฟ้องร้องใครได้อย่างแน่นอน ตนจึงตัดสินใจกู้เงินนอกระบบ และเงินญาติๆมาจ่ายค่าซ่อมรถ ได้ประมาณ 1 แสนบาท

ส่วนที่เหลือต้องทยอยผ่อนจ่าย ตนนำเรื่องที่เกิดกับตนไปปรึกษา จนท.ตำรวจ ที่โรงพัก หลังจากเข้าแจ้งความ ทาง จนท.ตำรวจ ได้รับคำแนะนำให้มาร้องเรียนที่ เพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความเป็นธรรม ตนจึงตัดสินใจเดินทางมาในวันนี้

ด้าน นายเอกภพ กล่าวว่า อยากให้การไฟฟ้านครหลวง พิจารณาเรื่องนี่อีกครั้ง โดยคำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชน คำนึงถึงหลักมนุษย์ธรรมมากกว่านี้ การไฟฟ้านครหลวงเป็นรัฐวิสาหกิจ มีงบประมาณมากมาย ควรให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบก่อน

ส่วนเรื่องฟ้องร้อง การไฟฟ้านครหลวง ควรเป็นเจ้าภาพในการดำเนินการ ไม่ใช่ให้ประชาชนที่เดือดร้อนไปฟ้องเอง สงสารประชาชน อยากให้การไฟฟ้านครหลวงมีความรับผิดชอบสูงเหมือนค่าไฟที่แพงบ้าง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *