สุดสะเทือนใจ คลิปชัดรถยนต์เอสยูวีทะเบียนลาวฝ่าไฟแดง สี่แยกดอนโมง จ.นครพนม ชนรถเก๋งสาวผู้ช่วยพยาบาล ท้องแก่ 8 เดือน ตายทั้งกลมพร้อมลูกในท้อง คนในรถบาดเจ็บสาหัส อีก 6 แพทย์ผ่าร่างทารกเพศหญิงออกมาแต่งศพ มอบให้ญาติไปบำเพ็ญกุศลตั้งโลงลูกข้างโลงแม่

กรณี เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2567 ที่ จ.นครพนม มีคลิปสะเทือนใจว่อนโซเชียล เป็นภาพจากกล้องวงจรปิด อุบัติเหตุรถยนต์เก๋ง SUV ยี่ห้อฟอร์ด Territory ทะเบียนประเทศลาว ป้ายเหลือง นร 5699 แขวงคำม่วน ขับมาบนถนนนิตโย นครพนม-สกลนคร ทางหลวงหมายเลข 22 ฝั่งมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองนครพนม ถึงสี่แยกดอนโมง ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม ขับฝ่าไฟแดงด้วยความเร็วสูง พุ่งชนรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว วีออส สีขาว ทะเบียน 4 ขท 3023 กรุงเทพมหานคร ที่ขับมาจากตัวเมืองนครพนม ก่อนเลี้ยวมุ่งหน้าไปบ้านนาราชควายใหญ่ ต.นาราชควาย อ.เมืองนครพนม ซึ่งทางเป็นไฟเขียว ถูกชนตรงประตูฝั่งซ้าย ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 7 คน ทั้งหมดเป็นคนในครอบครัวเดียวกันนั่งมาในรถเก๋งคันสีขาว

ที่น่าห่วง คือ คนนั่งเบาะซ้าย ชื่อ นางสาววิชุดา เทพคำราม หรือน้องบี อายุ 23 ปี ทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาล ประจำห้อง ICU โรงพยาบาลนครพนม กำลังท้องแก่ 8 เดือนใกล้คลอด บาดเจ็บสาหัส

โดยเจ้าหน้าที่และกู้ภัยเร่งช่วยเหลือ ผู้บาดเจ็บทั้งหมดจากรถที่เกิดอุบัติเหตุทั้งสองคัน รวม 10 คนส่งโรงพยาบาลนครพนม เหตุเกิดเวลาประมาณ 18.00 น. วันที่ 3 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา จนกระทั่งภายหลัง น้องบี สาวตั้งครรภ์ท้องแก่ 8 เดือนได้เสียชีวิตพร้อมลูกในครรภ์ ส่วนลูกสาวชื่อ น้องริว อายุ 5 ขวบ ที่นั่งมาด้วยกัน สามีซึ่งเป็นคนขับ แม่ และหลาน บาดเจ็บสาหัส ขณะที่รถยนต์ชาวลาวมีผู้หญิง นั่ง 3 คน รวมคนขับ ได้รับบาดเจ็บแต่อาการปลอดภัย

ต่อมา นายสมิง เทพคำราม อายุ 56 ปี พ่อของน้องบี ผู้เสียชีวิต ได้เดินทางไปรับศพลูกสาวกับหลานสาว (ทารกในครรภ์) ที่โรงพยาบาลนครพนม โดยแพทย์ ได้ผ่าคลอดเด็กออกมาเป็นเด็กเพศหญิง อายุ 8 เดือน ออกมา สภาพร่างกายสมบูรณ์ หน้าตาน่ารัก ยิ่งสร้างความสะเทือนใจให้กับครอบครัวและญาติเป็นอย่างมาก โดยได้ นำศพสองแม่ลูกบรรจุในโลงตั้งเคียงข้างกันในบ้าน นายสมิง เทพคำราม พ่อผู้เสียชีวิต ได้ร่ำไห้และขออุ้มกอดหอมแก้มศพหลานสาว 8 เดือนเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะมีการฌาปนกิจ

สอบถามญาติผู้เสียชีวิต บอกว่ายังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซ้ำร้ายหลังดูคลิปยิ่งสะเทือนใจ เพราะรถยนต์ชาวลาวคู่กรณีฝ่าไฟแดงชัดเจน และที่ยังติดใจคือตำรวจ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ยังไม่ชี้ชัดว่าใครผิด ทั้งที่หลักฐานชัดเจน อีกทั้งยังทิ้งภาระให้ญาติไปหาหลักฐานมาเพิ่ม จนกระทั่งญาติและครอบครัวผู้ตายคาใจหวั่นคดีไม่คืบ เนื่องจากคู่กรณีเป็นชาวลาว อีกทั้งยังมีข้อมูลว่า เป็นคนมีฐานะ มีบารมีทางฝั่งลาว เกรงว่าจะมีการวิ่งเต้นคดี ไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังเกิดเหตุยังไม่มีญาติคู่กรณีมาเจรจา อีกทั้งยังฝากบอกมากับคนรู้จักว่าจะจ่ายค่าเยียวยาแค่หลักหมื่น จึงต้องการให้ตำรวจชี้ชัดว่าใครผิดใครถูก เพราะมีหลักฐานชัดเจน ขอให้ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย มีการเยียวยาตามกระบวนการยุติธรรม

ล่าสุดวันที่ 6 สิงหาคม พ.ต.อ.ภาคภูมิ เดชะเรืองศิลป์ ผกก.สภ.เมืองนครพนม เปิดเผยว่ากรณีเกิดอุบัติเหตุ รถยนต์ชาวลาวชนรถเก๋ง มีผู้เสียชีวิตตายทั้งกลม ภายหลังการสอบสวน ตรวจสอบพยานหลักฐานมีหลักฐานชัดเจนจากกล้องวงจรปิดพบว่า รถยนต์ชาวลาวฝ่าไฟแดง ตามขั้นตอนของกฎหมายถือว่าเป็นฝ่ายผิดคันเดียว ส่วนที่ญาติเข้าใจว่าตำรวจให้ไปหาหลักฐานเพิ่มนั้น ไม่ได้ทิ้งภาระให้ผู้เสียหาย แค่เพียงบอกว่าหากพบหลักฐานเพิ่มเติม ให้นำส่งพนักงานสอบสวน เรื่องนี้เป็นความเข้าใจผิด  โดยตำรวจจะเชิญตัวคนขับรถชาวลาวมารับทราบข้อกล่าวหาฐานความผิดขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนการชดเชยเยียวยา เบื้องต้นจะมีการไกล่เกลี่ยทั้งสองฝ่าย หากไม่สามารถตกลงกันได้ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย ยืนยันทางตำรวจให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย และดำเนินคดีไปตามพยานหลักฐาน ขอให้มั่นใจในการทำงานของตำรวจ